ด่านเกวียน
The land of Ceramics.     
Amazing Thailand   Award 2537   Otop std. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โอทอป
 
   
Home | History | Manufacture | Products | Person | Site map | Travel | Help | Forums
   
   
 

 

อำเภอเมืองนครราชสีมา

อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี

ประดิษฐานอยู่หน้าประตูชุมพล สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2476 และแล้วเสร็จเมื่อพ.ศ.2477 โดยการออกแบบของอาจารย์ ศิลป พีระศรี องค์พระรูปหล่อด้วยทองแดง รมดำ ขนาดสูง 1.85 เมตร นำหนัก 325 กิโลกรัม ตั้งอยู่บนไพทีสี่เหลี่ยมย่อมุมไม่สิบสอง สูง 2.5 เมตร แต่งกายด้วยเครื่องยศ พระราชทาน มือขวากุมดาบ ปลายดาบจรดพื้น มือซ้ายท้าวสะเอว หันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงเทพมหานคร ท้าวสุรนารีมีนามเดิมว่า คุณหญิงโม เป็นภรรยาปลัดเมืองนครราชสีมาเกิดเมื่อปีพ.ศ.2314 ที่บ้านตรงข้ามวัดพระนารายณ์มหาราช ปัจจุบันและถึงแก่อนิจกรรมเมื่อพ.ศ.2395 รวมอายุได้ 81 ปี ท่านเกิดขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2369 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโดยเจ้าอนุวงศ์ผู้ครองนครเวียงจันทร์ ได้ขอครอบครัวลาวที่สระบุรี ซึ่งถูกกวาดต้อนมาจากนครเวียงจันทร์ในคราวสงครามครั้งที่ได้พระแก้วมรกต มาประดิษฐานไว้ ณ กรุงธนบุรีเมื่อไม่ได้ดังประสงค์ก็ก่อการกบฎ ยกกองทัพมาตีกรุงเทพฯ โดยปลอมตราพระราชสีห์ ทำทีว่า ยกทัพมาช่วยรบกับอังกฤษจึงเดินทัพผ่านเมืองต่างๆ ได้โดยง่าย แต่เมื่อเดินทางมาถึงนครราชสีมา ปรากฏว่า ความแตก จึงเข้าโจมตีเมืองนครราชสีมาซึ่งขณะนั้นพระยาปลัดเมือง (พระยาสุริยเดชวิเศษฤทธิ์ทศทิศวิชัย ) ผู้รักษาเมืองไม่อยู่เนื่องจากการไปปราบการจลาจลที่เมืองขุขันธ์ เจ้านุวงศ์จึงตีเมืองได้โดยง่าย และกวาดต้อนพลเมือง ทั้งชายและหญิง รวมทั้งคุณหญิงโมไปเป็นเชลย ในระว่างเดินทางมาถึงทุ่งสำฤทธิ์ ซึ่งห่างจากตัวเมือง 40 กิโลเมตร คุณหญิงโมได้ออกอุบายให้ชาวบ้านทำทีเป็นเชื่อฟังเพื่อให้เพี้ยรามพิชัยซึ่งเป็นผู้คุมไว้วางใจ จากนั้นชาวบ้านได้นำอาหารและสุรา เลี้ยงทหาร จนเมามายไม่ได้สติ เมื่อได้โอกาสจึงพร้อมใจกันจับอาวุธ ฆ่าทหารเวียงจันทร์ตายเป็นจำนวนมาก เจ้าอนุวงศ์ทราบข่าวจึงส่งทหารเดินเท้าประมาณ 3,200 คน และทหารม้าประมาณ 4,000 คน มาปราบปราม คุณหญิงโมจึงได้จัดกองทัพทั้งชายและหญิงออกตีกองทัพเวียงจันทร์แตก ขณะเดียวกันเจ้าอนุวงศ์ ทราบข่าวว่ากองทัพจากกรุงเทพฯยกขึ้นมาช่วยจึงต้องถอนกำลังทหารออกจากนครราชสีมา เมือ่วันที่ 23 มีนาคม 2369วีรกรรมของคุณหญิงโมครั้งนี้เป็นที่ทราบถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพราะกรุณา โปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโม ขึ้นเป็นท้าวสุรนารี ภายหลังคุณหญิงโม ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อ พ.ศ. 2395 อายุ 81 ปี เจ้าพระยามหิศราธิบดี ผู้สามีได้ณาปนกิจศพ และสร้างพระเจดีย์บรรจุอัฐิไว้ ณ วัด ศาลาลอยซึ่งท้าวสุรนารีได้สร้างขึ้น ต่อมาเจดีย์นั้นได้ชำรุดลง พลตรีพระยาสิงหเสนี ( สะอาด สิงหเสนี ) เมื่อเป็นพระยาประสิทธิศิลการข้าหลวงเมศาภิบาล ผู้สำเร็จราชการมณฑลนครราชสีมา องคมนตรีและรัฐมนตรีได้บริจาคทรัพย์สร้างกู่ขนาดเล็กบรรจุอัฐิท้าวสุรนารีขึ้นใหม่ที่วัดกลาง ( วัดพระนารายณ์มหาราช ) ต่อมากู่นั้นทรุดโทรมลงอีก ทั้งอยู่ในที่ คับแคบไม่งามสง่าสมเกียรติ พระยากำธรพายัพทิศ ( ดิศ อิทรโสฬส ) ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายพันเอกพระเริง รุกปัจจามิตร( ทอง รักสงบ ) ผู้บังการมณฑลทหาบกที่ 5 พร้อมด้วยข้าราชการประชาชนชาวนครราชสีมา ได้พร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีขึ้น พร้อมได้บรรจุอัฐิของท่านไว้ที่ฐาน เพื่อเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองนครราชสีมาและบุคคลทั่วไป เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณความดีของท่าน ชาวเมืองนครราชสีมาจึงได้พร้อมใจกันจัดงานเฉลิมฉลอง วันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี ขึ้นเป็นประจำทุกปี ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม ถึง 3 เมษายน

ประตูชุมพล

ตั้งอยู่ที่ตำบลในเมือง เป็นประตูเมืองทางด้านทิศตะวันตกของเมืองนครราชสีมา สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พ.ศ.2199 อันป็นปีที่พระองค์สะเด็จขึ้นครองกรุงศรีอยุธยาลักษณะของประตูเมืองเป็นประตูเชิงเทินก่อด้วยหินก้อนใหญ่ และอิฐฉาบด้วย ปูนทาสีขาว ส่วนบนของประตู เชิงเทินเป็นหอรบสร้างด้วยไม้แก่นหลังคามุงกระเบื้องประดับด้วยช้อฟ้าใบระกาเป็นประตูเมืองเก่าแก่ที่ยังคงเหลืออยู่แห่งเดียว ซึ่งกรมศิปากรได้ขึ้นบัญชีเป็นโบราณสถานเมื่อ พ.ศ. 2480

โคราชไนท์บาซ่าร์

อยู่กลางเมืองบริเวณสวนหมาก บนถนนมนัสติดกับถนนจอมพลและถนนมหาดไทยมีร้านขายของที่ระะลึกต่างๆ เสื้อผ้า ผลไม้ พร้อมทั้งอาหารและเครื่องดื่ม เปิดขายทุกวันระหว่างเวลา 18.00 - 22.00 น.

วัดพระนารายณ์มหาราช

ตั้งอยู่บนถนนประจักษ์ ภายในตัวเมือง เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาพร้อมกับการสร้างเมืองในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและเคย เป็นที่ประดิษฐานอัฐิของท้าวสุระนารี มุมวัดด้านถนนจอมพลเป็นที่ตั้งศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ประดิษฐานหลักเมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพของชาวเมืองนครราชสีมา

วัดศาลาลอย

ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมือง ทางเข้าแยกจากถนนรอบเมืองเข้าไปประมาณ 500 เมตร สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดได้แก่โบสถ์เก่าอายุกว่า 100 ปี และโบสถ์หลังใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2510 เป็นลักษณะศิลปไทยประยุกต์ แปลกจากโบสถ์วัดอื่นๆ โดยสร้างเป็นรูปสำเภาโต้คลื่น ใช้วัสดุพื้นเมือง คือ กระเบื้องดินเผาด่านเกวียน ผนังด้านหน้าอุโบสถเป็นภาพพุทธประวัติปางผจญมารซึ่งหาดูได้ยาก ผนังด้านหลังเป็นภาพพุทธประวัติปางเสด็รจลงมาจากดาวดึงส์ บานประตูเป็นพระพุทธรูปยืนปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ประทับ ณ ประตูเมืองลังกัสนคร โดยพนังด้านหลังเป็นเสมือนเงาของพระพุทธองค์ สมเด็จพระสังฆราชถวายพระนามว่า " พระพุทธประพัฒน์สันทรธรรมพิศาล ศาลาลอยภิบาลวนสันติสุขมุนินทร์ " เมื่อวันพุธ ที่ 23 พฤศจิกายน 2520 กำแพงแก้วล้อมรอบอุโบสถเป็นรูปใบเสมา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเสมาเดิม วัดนี้ได้รับรางวัลดีเด่นแนวบุกเบิกอาคารทางศาสนาจากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์และรางวัลจากมูลนิธิเสฐียรโกเศศและนาคะประทีป ในปี พ.ศ.2516.

วัดปรางค์

ตั้งอยู่ภายในวัดปรางค์ทอง ที่บ้านพุดซา จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 2 ถึงสี่แยกจอหอใช้ทางหลวงหมายเลข 205 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอำเภอขามทะเลสอ (ทางหลวงหมายเลข 2198) ประมาณ 10 กิโลเมตร ถึงวัดปรางค์ทองพุดซา องค์ปรางค์ก่อด้วยอิฐซึ่งเหลือเพียงองค์เดียวเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสย่อมุมไม้สิบสอง

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติมหาวีรวงศ์

ตั้งอยู่ในบริเวณวัดสุทธจินดาวรวิหาร ตำบลในเมือง ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัด ตัวอาคารพิพธภัณฑ์เป็นแบบทรงไทยประยุกต์ชั้นเดียวขนาดเล็ก ซึ่งกรมศิลปากรจัดสร้างขึ้นเพื่อเก็บรักษาโบราณวัตถุ และศิปวัตถุที่พบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อนุสรณ์สถานนางสาวบุญเหลือ

เมื่อครั้งที่ชาวนครราชสีมาต้องต่อสู้กับกองทัพของเจ้าอนุวงศ์จนได้รับชัยชนะในที่สุดภายใต้การนำของคุณหญิงโมนั้น ได้มีสาวน้อยผู้หนึ่งมีนามว่า บุญเหลือ " ได้ร่วมรบในสงครามครั้งนั้น และได้ยอมพลีชีพของตนเพื่อปกป้องแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนให้รอดพ้นจากการรุกรานของข้าศึก ซึ่งวีรกรรมที่เธอได้ก่อไว้นั้นเป็นที่ทราบซึ้งแก่ชาวเมืองนครราชสีมาเป็นอย่างยิ่ง จึงพร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์ขึ้นในบริเวณโรงเรียนบุญเหลือ วิทยานุสรณ์ ตำบลโคกสูงห่างจากตัวเมือง 12.5 กิโลเมตรตามเส้นทางหลวงหมายเลข 205 (นครราชสีมา - ชัยภูมิ) และได้ทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2529

ปราสาทหินพนมวัน

ตั้งอยู่ที่บ้านมะค่า ตำบลโพธิ์ ห่างจากตัวจังหวัด ประมาณ 20 กิโลเมตร การเดินทางจากตัวเมืองนครราชสีมาใช้เส้นทางสายมิตรภาพ (นครราชสีมา ขอนแก่น) ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 14 - 15 มีทางแยกขวามือ มีป้ายบอกทางเข้าวัดหนองบัว ซึ่งเป็นทางลาดยางเข้าไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ปราสาทหินพนมวันเป็นศาสนสถานแบบขอมมีลักษณะคล้ายปราสาทหินพิมายแต่มีขนาดเล็กกว่าส่วนที่เรียกว่า " เทวาศรม " หรืออาศรมของเทวะ เป็นชื่อเรียกที่ปรากฎในศิลาจารึกซึ่งพบที่ปราสาทแห่งนี้.

สวนแก้ว

อยู่ทางไปอำเภอปักธงชัย ห่างจากจังหวัดไปประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นสถาณที่พักผ่อนหย่อนใจภายในร่มรื่น

สวนสัตว์นครราชสีมา

อยู่ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมา ประมาณ 13 กิโลเมตร บนถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (นครรชสีมา - ปักธงชัย) ต.ปักธงชัย อ.เมือง เป็นสวนสัตว์แห่งที่ 5 ของประเทศ ลักษณะเป็นแบบกึ่งเปิดและปิด มีพื้นที่กว้างทั้งสิ้น 545 ไร่ 1 งาน 48 ตารางวา มีสัตว์ป่าหาดูยาก มากมายหลายชนิด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่แพ้ที่เขาเขียว จ.ชลบรี

ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา

ตั้งอยู่บริเวณสถาบันราชภัฏนครราชสีมา ถ.สุรนารายณ์ อ.เมือง เป็นสถาณที่รวบรวมภาพและประวัติโบราณสถาน รูปภาพศิลป ตลอดจนของใช้โบราณและเงินตราต่างๆ ติดต่อสอบถาม โทร.242158 หรือ 242667

ศาลเจ้าช้างเผือก

ตั้งอยู่ริมคูเมืองทางด้านทิศเหนือ ตรงมุมถนนมนัสตัดกับถนนพลแสนในอำเภอเมือง เป็นศาลเจ้าสร้างครอบหลักตะเคียนหิน ซึ่งเดิมเป็นหลักที่ชาวเมืองภูเขียวนำช้างเผือกมาผูกไว้เพื่อพนักงานกรมคชบาลตรวจดูลักษณะช้าง ก่อนกราบทูลถวายพระบาท สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เพื่อทรงรับไว้เป็นพระราชพาหนะ

วัดศาลาทอง

ตั้งอยู่ที่ ต.หัวทะเล อ.เมือง ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 1 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งบรรจุอยู่ในพระเจดีย์องค์เล็กปัจจุบันได้ก่อพระเจดีใหญ่ครอบองค์เดิมไว้

วัดป่าสาละวัน

อยู่หลังสถานีรถไฟนครราชสีมา เป็นวัดที่เก็บพระอัฐิของอาจารย์เสา อาจารย์มั่น และอาจารย์ทิม ภายในวัดร่มรื่น เย็นสบาย

   
 

Cast Stone Garden

The Dan Kwian products become one of the major export goods from Korat, Thailand.
copyright © 1999 - 2024 DanKwian.com : The Land of Ceramics.