ชนิดของเครื่องปั้นดินเผา
เซรามิกส์ | เครื่องสังคโลก | เครื่องเบญจรงค์
| ผลิตภัณฑ์รากุ | ผลิตภัณฑ์เอนเทนแวร์ | ผลิตภัณฑ์สโตนแวร์
| ผลิตภัณฑ์โบนไชนา | ผลิตภัณฑ์ปอร์เลน |
|
เครื่องปั้นด่านเกวียน
เครื่องปั้น | กระเบื้องปูพื้น - ประดับผนัง | หล่อหินทราย |
เครื่องปั้นเคลือบ | ทองเหลือง - สัมฤทธิ์ |
เซรามิกส์
เซรามิกส์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับเครื่องเคลือบดินเผาซึ่งได้แก่
เครื่องถ้วยชามเครื่องสุขภัณฑ์ เครื่องกันไฟฟ้า กระเบื้องกรุฝาผนัง
กระเบื้องโมเสค กระเบื้องมุงหลังคา อิฐก่อสร้าง กระถาง
โอ่ง ไห พวกแจกันและเครื่องประดับอื่นๆ กล่าวถึงวัตถุดิบต่าง
ๆ ที่นำมาใช้ผลิต เช่น ดินต่าง ๆ หินฟันม้า หินเขี้ยวหนุมาน
เป็นต้น กล่าวถึงกระบวนการผลิต ซึ่งประกอบด้วย การเตรียมวัตถุดิบ
การเตรียมเนื้อดินปั้น การขึ้นรูปซึ่งมีหลายวิธี เช่น
การขึ้นรูปด้วยมือ การขึ้นรูปโดยใช้แป้นหมุน การขึ้นรูปโดยใช้เครื่อง
Jigger การขึ้นรูปโดยการเทแบบ และการขึ้นรูปโดยใช้เครื่องอัด
เป็นต้น เมื่อขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว วิธีต่อมาก็คือ
การตากแห้ง การเผาดิน (Biscuitfiring) การเคลือบ การเผาเคลือบ
(Glostfiring) นอกจากนี้ก็อาจมีการตกแต่งให้สวยงาม เช่นการเขียนลวดลายด้วยสีหรือการติดรูปลอก
ซึ่งสามารถทำได้ทั้งก่อนและหลังการ
เครื่องสังคโลก
เครื่องสังคโลก เป็นเครื่องเคลือบดินเผาที่ทำขึ้นในสมัยสุโขทัยเป็นราชธานี
ทำกันมาที่เมืองสรรวโลก เป็นเครื่องเผาไทยที่ทำเป็นล่ำสัน
จนเป็นอุตสาหกรรมสมัยนั้น เพราะสามารถทำการจำหน่ายไปยังต่างประเทศได้
ซึ่งได้รับความนิยมสูงมาก จากเอกสารโบราคดีไดพบว่าเครื่องปั้นสังคโลกในประเทศอินโดเนียเซีย
ศรีลังกา ตามประวัติศาสตร์เครื่องสังคโลก ในสมัยสุโขทัย
เริ่มตั้งแต่สุโขทัยเป็นราชธานี ในสมัยสมเด็จพระร่วงจนไปถึงพ่อขุนรามคำแขง
ในสมัยนั้นสุโขทัยได้ติดต่อซื้อขายกับจีน ได้นำชาวจีนได้เข้ามาสร้างเตาเผา
ที่สุโขทัย
เครื่องปั้นดินเผาสมัยสุโขทัยมีหลายชนิด ซึ่งได้เรียกชื่อตามสถานที่ทำเครื่องปั้นดินเผา
คือ
1. เครื่องถ้วยเฉลียง
2. เครื่องถ้วยสุโขทัย
3. เครื่องถ้วยสวรรคโลก
เครื่องเบญจรงค์
ผลิตภัณฑ์รากุ
ผลิตภัณฑ์ (Raku) ในการทำผลิตภัฑ์รากุ มักเผาผลิตภัณฑ์ในร้อนจัดจนเคลือบละลาย
จึงนำผลิตภัณฑ์ออกจากเตาเผาทำให้เย็นตัวลงอย่างฉับพลัน
เพื่อความเหมาะสมต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างรวดเร็วนี้องค์ประกอบของเนื้อดินรากุจึงจำเป็นต้องมีลักษณะที่แตกต่างไปจากดินปั้นชนิดอื่น
ๆ เนื้อดินที่ใช้ได้ผลดีคือดินสโตแวร์ส่วนผสมของดินเชื้ออย่างน้อยร้อยละ
20 ผลิตภัณฑ์ รากุมีลักษณะเด่นอยู่ที่ความมันของเคลือบ
สีสันที่สดใส ในบางครั้งให้พื้นผิวของโลหะที่งดงาม นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการเผารวดเร็ว
ช่างปั้นบางคนนิยมนำผลิตภัณฑ์รากุออกจากเตาเผาขณะที่ภาชนยะร้อนแดงอยู่
แล้วใส่ลงถังขี้เลื่อยเพื่อเป็นการบ่มภาชนะในบรรยากาศไม่สมบูรณ์
ทำให้พื้นผิวของภาชนะแลดูเงางามก่อให้เกิดความสนใจไปอีกรูปแบบหนึ่ง
ในการเผาเคลือบผลิตภัณฑ์รากุมักนิยมเผาไม่ให้ดินถึงจุดสุกตัว
ดังนั้นผลิตภัณฑ์จึงมีความพรุนตัวเหลืออยู่ซึ่งทำให้สามารถซึมผ่านได้
ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จึงใช้เก็บน้ำได้ไม่ดีนัก
ผลิตภัณฑ์เอนเทนแวร์
ผลิตภัณฑ์ เอนเทนแวร์ (Eahen Were )
ลักษณะโดยทั่วไปจะมีสีที่ออกแดงน้ำตาล เนื่องจากดินมีส่วนผสมของสารประกอบเหล็กปนอยู่
เนื้อดินชนิดนี้นิยมนำมาใช้ปั้นประติมากรรม เพราะมีคุณสมบัติหดตัวน้อยและมีความพรุนดีทำให้ลดความเสี่ยงในการแตกร้าวได้ดินขาวเอทเทนแวร์มักจะเกิดขึ้นได้ยากตามธรรมชาติดังนั้นความขาวของดินสามารถทำได้โดยการเติมแร่ทอลค์
ซึ่งเป็นผงบดละเอียดสีขาวลงในเนื้อดินเพื่อทำหน้าที่เป็นฟลักซ์แทนสารประกอบเหล็กซึ่งมีสีน้ำตาล
โดยปกติดินชนิดนี้จะมีจุดสุกตัวอยู่ที่อุณหภูมิ 1,050
องศาเซลเซียส ความงามของผลิภัณฑ์ชนิดนี้อยู่ที่สีของเนื้อดิน
ซึ่งช่างปั้นบางคนที่ไม่ชอบสร้างสรรค์ผลงานบนเนื้อดินที่มีสีขาวซีด
เช่น ดินสปอร์ซเลน มักจะเลี่ยงมาใช้เนื้อดินเอทเทนแวร์ขึ้นผลิตภัณฑ์แทน
เพราะนอกจากความงามของเนื้อดินแล้วยังเป็นการประหยัดเวลา
และทุ่มเทค่าเชื้อเพลิงที่ใช้ในการเผาผลิตภัณฑ์เอทเทนแวร์อีกด้วย
ผลิตภัณฑ์สโตนแวร์
ผลิตภัณฑ์สโตนแวร์ (Stoneware) เนื้อดินปอร์ซเลนและสดตนแวร์มีองค์ประกอบที่แตกต่างกันที่มีปริมาณออกไซด์ของเหล็กและความบริสุทธิ์ขงเนื้อดินมีผลทำให้ผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มีจุดสุกตัวต่ำปอร์ซเลน
คืออุณหภูมิ
1,200 - 1,285 องศาเซลเซียส เนื้อดินสโตนแวร์มีคุณสมบัติที่มีความเหนี่ยวมากกว่าดินปอร์ซเลนและเหมาะอย่างยิ่งในการนำไปใช้ขึ้นรูปด้วยแป้นหมุนและการขึ้นรูปอิสระช่างปั้นจำนวนน้อยที่พอใจกับสีสันของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์ที่เกิดจากการเผาด้วยแก๊ส
หรือเตาน้ำมันในบรรยากาศที่ไม่สมบูรณ์โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้จะปรากฏสีครีมไปจนถึงสีน้ำตาลอ่อนบนพื้นผิวของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์เนื้อดินชนิดนี้มมักจะมีดินเชื้อผสมอยู่
เพื่อทำให้เนื้อดินมีความแข็งแรงขึ้นรูปทรงต่าง ๆ ได้โดยง่าย
สูตรดินสโตนแวร์ ที่ใช้ได้ผลดีคือ
ดินสโตนแวร์ 55 ส่วน
ดินบอลล์เคลย์ 10 ส่วน
ทรายแก้ว 15 ส่วน
หินฟันม้า โพแทส 10 ส่วน (Rhodes, 1975)
ผลิตภัณฑ์โบนไชนา
ผลิตภัณฑ์โบนไชนา (Bone China) เป็นเนื้อดินที่มีลักษณะคล้ายกับดินปอร์ซเลน
แตกต่างกันเพียงแต่มีการผสมขี้เถ้ากระดูก ซึ่งเป็นสารประกอบแคลเซียมฟอสเฟตลักษณะของผลิตภัณฑ์โบนไชนาจะมีคุณสมบัติที่แข็งแกร่ง
เนื้อดินมีการหดตัวสูง ซึ่งมักมีปัญหาการแตกร้าวของผลิตภัณฑ์เสมอ
ฉะนั้นการขึ้นรูปทรงขนาดใหญ่ ๆด้วยมือแป้นหมุนจึงมักไม่นิยมทำกับเนื้อดินชนิดนี้
เนื่องจากเนื้อดินไมมีความเหนียวพอ โดยปกติผลิตภัณฑ์นี้จะเเผาให้สุกตัวที่อุณหภูมิประมาณ
1,200 องศาเซลเซียสเนื้อดินสำหรับผลิตภัณ์โบนไชนาจำเป็นต้องมีความบริสุทธิเนื่องจากความโปร่งแสงที่เกิดขึ้น
ในผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง ส่วนผสมของเนื้อดินจำเป็นต้องประกอบด้วยดินเกาลิน
ที่มีปริมาณของสารประกอบเหล็กและสารประกอบไทเทเนียมที่น้อยที่สุด
เนื่องจากสารทั้งสองตัวเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เนื้อดินทึบแสงและทำให้เกิดความขาวของเนื้อดินลดลง
การเติมขี้เถ้ากระดูกลงในเนื้อดินนอกจากจะเป็นฟลักป์ในเนื้อดินที่ดีตัวหนึ่งแล้ว
สารประกอบฟอสเฟตในกระดูกยังมีคุณสมบัติในการฟอกสีของเหล็กในเนื้อดินเกาลินให้จางลงด้วย
กระดูกที่ใช้ในการเตรียมขี้เถ้าที่เหมาะสมที่สุดจะต้องเป็นกระดูกที่ได้จากขาหลังของวัว
ซึ่งนอกจากขนาดของกระดูกจะใหญ่แล้ว ยังมีปริมาณของแร่เหล็กในเนื้อกระดูกต่ำอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์โบนไชนาถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีค่าเนื่องจากเทคนิคการผลิตจำเป็นต้องควบคุมความสะอาดและจะต้องมีความบางเพื่อให้แลดูโปร่งแสง
ดังนั้นผลิตภัณฑ์ก่อนการเผาดิบจึงง่ายต่อการแตกหักเสียหาย
โดยปกติในการขึ้นรูป ใช้เทคนิคการหล่อด้วยน้ำดินโบนไชนาแล้วนำมาขัดให้ผิวหน้ามันด้วยมือ
และเผาให้สุกตัวด้วยอุณหภูมิสูงโดยไม่เคลือบผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จะใช้กรรมวิธีหล่อน้ำดิน
เนื่องจากเนื้อดินมีความเหนียวและเป็นกรรมวิธีสามารถควบคุมความหนาของผลิตภัณฑ์ได้อีกด้วย
ผลิตภัณฑ์ปอร์เลน
ผลิตภัณฑ์ปอร์ซเลน (Rorcelain) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องเผาไปอุณหภูมิสูงที่สุดในบรรดาผลิตภัณฑ์เครื่องเคลือบดินเผา
เราสามารถบอกได้ว่าผลิตภัณฑ์ใดเป็นผลอิตภัณฑ์ปอร์ซเลนโดยการสังเกตความแกร่งของผลิตภัณฑ์
ความเนียมของเนื้อดินและความขาวที่สม่ำเสมอโดยตลอดโดยปกติจะเผาที่อุณหภูมิโคน
๘ ถึงโคน ๑๒ เพราะต้องการให้ผลิตภัณฑ์มีความแกร่งสูงและมีลักษณะเหมือนแก้ว
ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวมาแล้วทำให้ผลิตภัณฑ์ปอร์ซ เลนเหมาะอย่างยิ่งในการผลิตเพื่อการจำหน่ายและ
ยังสามารถขึ้นรูปด้วยกรรมวิธีหล่อน้ำดินหรือกรรมวิธีใบมีด
(จิกเกอร์) ได้ดีอีกด้วย
ช่างปั้นดินเผาอาชีพจำนวนมากที่พยายามพัฒนาเนื้อดินปอร์ซเลนให้มีคุณภาพดีขึ้น
โดยการหาวิธีลดจุดสุกของตัวเนื้อดินให้ต่ำลงอุณหภูมิ
1,200 - 1,285 องศาเซลเซียศ เพื่อลดความเสียหายจากการหดตัวและความสิ้นเปลืองในการเผาผลิตภัณฑ์
ส่วนประกอบของเนื้อดินปอร์ซเลนประกอบด้วยดินเกาลิน หินฟันม้า
และหินเขี้ยวหนุมานหรือวอทซ์ละเอียด การเพิ่มคุณสมบัติด้วยความเหนียวในเนื้อดินสามรถทำได้ด้วยการเติมดินบอลล์เคลย์ร้อยละ
25 หรือเติมดินเบนโทไนต์ร้อยละ 5สูตรเนื้อดินปอร์ซเลน
ที่ใข้ผลดีก็คือ
ดินเกาลิน 4 ส่วน
ดินบอลล์เคลย์ 1 ส่วน
หินฟันม้า โพแทส 3 ส่วน
ควอทซ์ 2ส่วน (Rhodes, 1973)
นอกจากนี้ทำให้เนื้อดินปอร์ซเลนเหนียวยังสามารถทำได้ด้วยการหมักเนื้อดินด้วยน้ำส้มสายชู
ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ถังที่ใช้หมักดินอาจเป็นถังพลาสติกขนาด
๑๐๐ ลิตร หรืออาจบรรจุเนื้อดินลงในถังพลาสติกก็ได้ แต่จะต้องหมักเนื้อดิน
ในที่เย้นและปราศจากแสงแดด ดินที่หมักน้ำส้มสายชูซึ่งเป็นกรดอินทรีย์ชนิดหนี่งจะมีกลิ่นเหม็นเน่าเมื่อนำขึ้นมาจากถังหมักใหม่
ๆ และมีสีเข้มข้นขึ้นเช่นเดียวกับดินที่เพิ่งขุดข้นมาจากก้นบึ้ง
การหมักดินตั้งแต่สองสัปดาห์ ขึ้น ไปถือว่าการเพียงพอที่จะนำไปใช้ขึ้นรูปบนแป้นหมุนได้
เครื่องปั้นด่านเกวียน
เครื่องปั้นด่านเกวียนทำจากดินเหนียวที่ขุดจากริมฝั่งแม่น้ำมูล
และเครื่องปั้นทุกชิ้นทำด้วยมือทั้งสิ้น ดินด่านเกวียน
นั้นมีลักษณะพิเศษ คือมีแร่เหล็กผสมอยู่ด้วย ทำให้เป็นสีแดงเข้มเมื่อเผาเสร็จ
มันต่างจากดินเหนียวแดงธรรมดา โดยมันมีอัตราส่วนของแร่อลูมิเนียมที่ค่อนข้างสูง
ซึ่งแร่นี้ทำให้เครื่องปั้นมีความแกร่ง และสามารถเผาในอุณหภูมิที่สูงได้
และยังสามารถปั้นเป็นรูปแบบต่างๆ ได้เครื่องปั้นด่านเกวียนนั้นทำเองด้วยมือและไม่ใช้เครื่องจักรเลย
ช่างปั้นจะปั้นโดยวางดินบนพะมอน แล้วทำการปั้นโดยจะมีผู้ช่วย
หมุนพะมอน และปั้นจนสำเร็จ ตกแต่งเสร็จ ก็จะตากให้แห้ง
โดยใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงนำเข้าเตาเผาในอุณหภูมิประมาณ
1100 ํ C เมื่อเผาเสร็จแล้วก็จะนำมาทาสีตามที่ลูกค้าสั่งออเดอร์
แล้ว แพ็คลังกระดาษหรือลังไม้แล้วทำการโหลดขึ้นตู้คอนเทนเนอร์
แล้วส่งออก
กระเบื้องปูพื้น - ประดับผนัง
และรูปปั้นดินเผา
เป็นเวลามากกว่า 25 ปีมาแล้ว ที่กระเบื้องเป็นสินค้าที่สำคัญของด่านเกวียน
และมันมีความแข็งแรง ปกติ จะมีขนาด
4 x 4" กระเบื้องด่านเกวียนมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ
กระเบื้องเรียบ ( หกเหลี่ยม และ สี่เหลี่ยม ) และกระเบื้องลาย
สำหรับ กระเบื้องลายก็มีอยู่ด้วยกันหลายลาย เช่น พิกุล
1 ,พิกุล 2 ฯลฯ กระเบื้องด่านเกวียนเหมาะอย่างยิ่งสำหรับประดับผนัง
เพื่อความสวยงาม สำหรับกระเบื้องเรียบนั้นก็มีความแข็งแรง
สามารถปูพื้นให้รถยนต์วิ่งได้
สำหรับรูปปั้นดินเผา ขบวนการผลิตจะคล้ายกับการทำหินทราย
คือแกะดินเหนียวตามรูปภาพที่ต้องการ เสร็จแล้วเมื่อ
ดินแห้ง ก็ทำการเผาในเตาเผา รูปปั้นดินเผานี้ก็เหมาะที่จะติดตั้งประดับผนังบ้าน
ทั้งภายในและ ภายนอก
หล่อหินทราย
งานหินทรายเป็นการทำเลียนแบบศิลปะสมัยเก่า
วัตถุดิบที่ใช้ก็จะมีสูตร และคุณสมบัติคล้ายกับการซ่อมแซมปราสาท
หรือวัดในสมัยโบราณ ที่ทรุดโทรม หลังจากที่ได้ผลิตงานแต่ละชิ้นขึ้นมา
เราก็พยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้มันดูเหมือนงาน หินทรายจริง
ๆ และสุดท้าย จากความต้องการของลูกค้า เราก็ทำให้มัน
ไม่ใช่แค่ ดูให้เหมือนหินทรายจริง ๆ เท่านั้น เรายังทำให้มันดูเป็นของเก่า
ตามความต้องการของลูกค้าอีก
เครื่องปั้นเคลือบ
โคราช พ็อตเตอรี่ เป็นบริษัทเดียวเท่านั้นที่ผลิตเครื่องปั้นเคลือบ
และทำมาได้ประมาณ 10 ปีแล้ว ผลิตภัณฑ์นี้เมื่อเผาเสร็จ
จะมีความสมบูรณ์ มาก ทุกชิ้นจะเคลือบได้เสมอกัน และลักษณะงานที่ออกมาจะเหมือนกัน
แทบทุกชิ้น
ทองเหลือง - สัมฤทธิ์
งานทองเหลืองเป็นงานที่ทำเลียนแบบศิลปะสมัยเก่า
เหมือนกับงานหินทราย แต่วัสดุที่ใช้จะต่างกันเท่านั้น
งานส่วนมาก จะดูคล้ายกับศิลปะแบบเขมร เรายังทำให้มันดูเหมือนของเก่า
หรือที่เรียกว่าสัมฤทธิ์ อีกด้วย ลูกค้าส่วนมากจะซื้อไป
ตกแต่งบ้านตามความชอบของลูกค้าแต่ละคนเครื่องปั้นเคลือบจะมีคุณภาพมาก
ไม่ซึมน้ำ ทนต่อความเป็นกรด ทนต่อ อากาศหนาวเย็นได้
และทนแดด ทนฝน แต่น่าเสียดายที่เครื่องปั้น เคลือบมีข้อจำกัดอยู่ที่
งานจะออกมาได้สีเดียว แต่ก็สามารถขายได้ดี ในประเทศญี่ปุ่น
เพราะงานมีลักษณะคล้ายกับงานเคลือบเก่าแก่ ของชาวญี่ปุ่น
|